"We use cookies to make your experience better". "To offer a better browsing experience, the website uses technical, analytical, profiling and third party cookies. By selecting "Accept" you consent to the use of all cookies. If you would like to know more or opt out of all or some cookies select "Manage Cookies". Learn more
Top 5 Investment Bags สุดยอดกระเป๋าน่าลงทุน ปี 2023
Top 5 Investment Bags สุดยอดกระเป๋าน่าลงทุน ปี 2023 อะไรจะมีเสน่ห์ไปกว่าพันธบัตรรัฐบาล ผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน ดูแลรักษาง่ายกว่ารถโบราณ และให้ผลตอบแทนดียิ่งกว่าทองคำ จากรายงานพบว่ากระเป๋าถือจากแบรนด์หรู มีมูลค่าในการลงทุนดีกว่าราคาทองคำและแข็งค่าขึ้นโดยเฉลี่ย 8% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ใช่ว่ากระเป๋าจากแบรนด์ดังทุกรุ่น จะสามารถทำกำไรได้ ในตลาดซื้อขายแบรนด์เนม
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น อายุการผลิตที่ยาวนาน ราคาที่เพิ่มขึ้นทุกปี และมูลค่าที่คงไว้ในตลาดมือสอง ก่อนที่จะตัดสินว่ากระเป๋าของคุณ เข้าข่ายเป็นกระเป๋าน่าลงทุนหรือไม่ SF Brandname ขอนำเสนอ 5 สุดยอดกระเป๋าน่าลงทุน ที่มีมูลค่าการขายต่อสูงสุดในปี 2022 เราขอรับประกันว่า ตัวเลือกเหล่านี้ คุ้มค่ากับทุกเม็ดเงินที่คุณตัดสินใจลงทุนไปอย่างแน่นอน
1.Hermes Mini Kelly 20
Mini Kelly's ของ Hermès อยู่ในระดับแนวหน้าของกระเป๋าถือที่คุ้มค่าต่อการลงทุนที่สุดในปี 2023 ปัจจุบันเป็นที่ต้องการสูงสุดในตลาดขายต่อสินค้าแบรนด์เนมมือสอง Mini Kelly แสดงให้เห็นถึงผลกำไรสูงสุดในปี 2022 กระเป๋า Hermès Kelly 20 Sellier คาดว่าจะขายต่อระหว่าง 20,000 - 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 688,240-1,377,000 บาท ในตลาดมือสอง เทียบกับราคาขายมือหนึ่ง ซึ่งเริ่มต้นที่ 8,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 293,000 บาท
หากราคาขายในตลาดมือสอง อยู่ในช่วงราคาดังกล่าว คุณสามารถคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน โดยเฉลี่ย 200-300% ดังนั้น คุณสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่าของราคาเดิม หากคุณต้องการที่จะขาย Mini Kelly ของคุณ แน่นอนว่ากระเป๋าจะต้องอยู่ในสภาพที่ดี และมาพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ถุงผ้า หรือ ใบเสร็จ ซึ่งราคาดังกล่าว อันแปรผันได้ตามสภาพของกระเป๋า
นอกจากประโยชน์ใช้สอยแล้ว เรื่องราวของ Hermes Kelly ยังถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำเรื่องหนึ่งของโลก ในปี ค.ศ. 1956 Hermès เปิดตัวกระเป๋าถือที่มีชื่อเรียกว่า Sac à dépêches เป็นกระเป๋าที่อดีตนักแสดง เกรซ เคลลี่ คู่หมั้นของเจ้าชายแรนีแยร์ (Prince Rainier) แห่งโมนาโค ได้นำกระเป๋ามาบังท้องของเธอไว้ เพื่อปิดข่าวการตั้งครรภ์ขณะกำลังถูกถ่ายภาพโดยปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อภาพได้ถูกตีพิมพ์ออกไป กลายเป็นกระแสฮือฮาชั่วข้ามคืน เหล่าสตรีผู้หลงไหลในแฟชั่นต่างพากันมาที่ร้านแอร์เมสพร้อมกับถามหา “Kelly Bag” ทางแบรนด์เห็นโอกาสอันดีในการเปลี่ยนชื่อรุ่นกระเป๋าเพื่อให้รับกับกระแสที่กำลังเป็นนิยมรวมทั้งให้ง่ายต่อการจดจำ ชื่อรุ่น “Hermès Kelly” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยที่มาของชื่อมาจาก Grace Kelly นั่นเอง
ความหลงไหลและต้องการกระเป๋าสไตล์มินิ ในปัจจุบัน เพิ่มสูงขึ้นจากในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋าที่ถูกตัดเย็บจากวัสดุหายาก แปลกใหม่ หรือหนังสัตว์ exotic ถือเป็นกระเป๋าที่น่าลงทุน เพราะถูกผลิตในจำนวนจำกัด เสน่ห์ของความหายากทำให้พวกมันเป็นที่ต้องการมากที่สุด สำหรับรุ่นหายากเหล่านี้ จะสามารถทำกำไรในตลาดซื้อขายมือสองได้สองถึงสามเท่า!
2. Hermès Birkin 25
ไม่แปลกใจเลยที่อันดับสองของลิสต์กระเป๋าน่าลงทุนประจำปี 2023 นี้คือ Hermès Birkin 25 กระเป๋ารุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และขึ้นชื่อถึงความหายากมากที่สุดรุ่นหนึ่ง Birkin 25 จึงเป็นที่ต้องการมากที่สุดและยากที่สุดที่จะได้มาครอบครอง โดยราคาขายมือหนึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 10,145 ปอนด์ (378,000 บาท) ซึ่งจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 250%
หากคุณซื้อ Birkin ในช่วงต้นยุค 2000 แหล่งข่าวระบุว่า Birkin ขนาด มาตรฐานซึ่งปัจจุบันราคาจำหน่ายมือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 13,200 ดอลลาร์ (455,000 บาท) ขายในราคา 157% ของมูลค่าดั้งเดิมในตลาดมือสอง ขายในราคา 157% ของมูลค่าดั้งเดิมในตลาดมือสอง เมื่อพูดถึงการรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี Birkin 25 จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณเสมอ
จากการศึกษาพบว่า ราคาของ Birkin เพิ่มขึ้น 500% ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยปีละ 14% เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในหุ้น S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 12 % ต่อปีเท่านั้น กล่าวได้ว่าตลาดทองคำและตลาดหุ้น มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่การลงทุนในกระเป๋า Birkin มีแต่จะเพิ่มค่าขึ้นทุกขณะ
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1984 จากการออกแบบของ Jean-Louis Dumas ก็ครองตำแหน่ง "กระเป๋าถือที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด" อย่างเหนียวแน่นตลอด 40 ปีที่ผ่านมา อันที่จริงแล้ว กลยุทธ์ที่คำนวณไว้เบื้องหลังความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้งของ Birkin นั้นเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริง การผสมผสานระหว่างมรดกตกทอดอันยาวนาน ฝีมือประณีต และความหายาก และยากที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ทำให้ Hermès และ Birkin อยู่ในตำแหน่งที่เหนือชั้นกว่าใครในบรรดาแบรนด์แฟชั่นหรูหราในปัจจุบัน
ลองนึกภาพคุณ สามารถซื้อกระเป๋า Birkin ได้ในราคา 2,000 ปอนด์ (74,500 บาท) นั่นคือราคาของกระเป๋ารุ่นนี้ ในช่วงปีแรกของการผลิต ตั้งแต่ปี 2019 Birkin มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 76% และมีราคาเพิ่มขึ้น 14.2% ต่อปี ในความเป็นจริง ดัชนีกระเป๋าถือ Hermès มีอัตราการลงทุนที่คุ้มค่า ดีกว่าดัชนีการลงทุนด้านสินทรัพย์อื่น ๆ ของไนท์แฟรงค์ (KFLII) ที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก สำหรับสินทรัพย์เพื่อการลงทุนทางเลือก เช่น ศิลปะ วิสกี้ และแสตมป์ ระหว่างปี 2010- 2020
ด้วยการวางข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับจำนวนของ Birkin ที่ผลิตต่อปี การผนวกความพิเศษเฉพาะตัวและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ผนวกเข้ากับการขึ้นราคาประจำปีจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเห็นราคาของ Birkin ที่ทำลายสถิติในการประมูลในทุกตลาดซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง เพื่อผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนของคุณ หนังตะกวด (lizard) และหนังจระเข้ (crocodile) คือหนังที่เหมาะสมกับการลงทุนในขณะนี้
3. Vintage Chanel Flap Bag
เหนือกาลเวลา ความหรูหราคลาสสิก เอกลักษณ์ของแฟชั่นเฮ้าส์ Chanel สำหรับ Chanel Classic Flap ถือเป็นกระเป๋าที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุดมาทุกสมัย โดยเฉพาะปัจจุบัน กระแสความนิยมของกระเป๋ารุ่น Vintage มีมากขึ้น ทำให้กระเป๋า Chanel Vintage Classic Flap สามารถทำกำไรได้อย่างงามในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสอง
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1959 เมื่อกระเป๋า Chanel 2.55 เปิดตัวครั้งแรกออกสู่สายตาประชาชนด้วยราคาเริ่มต้นเพียง US$220 หรือเป็นเงินไทยโดยประมาณ 7,500 บาทเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน จะถือว่าเป็นกระเป๋ารุ่นวินเทจ ที่มีมูลค่าเฉลี่ยต่อใบสูงถึง 152,000 บาท ซึ่งหากนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน คุณจะได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้ราคาอาจมีการเปลี่ยนผันได้ ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมของกระเป๋า และความต้องการของตลาดในขณะนั้น
หากคุณกำลังลงทุนในกระเป๋าสะพายแบบคลาสสิก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าใบนั้น ๆ ถูกผลิตก่อนปี ค.ศ. 2008 โดยกระเป๋าทุกรุ่น ที่ถูกผลิตหลังปี ค.ศ. 2008 จะมีฮาร์ดแวร์ทอง 18 ct เท่านั้น ในขณะที่รุ่นวินเทจจะใช้ทอง 24ct เราแนะนำให้เลือกใช้หนังคาเวียร์ เนื่องจากเป็นหนังที่มีความทนทานมากที่สุด กระเป๋าคาเวียร์แบบฝาพับจึงมีแนวโน้มที่จะคงรูปและไม่เป็นรอยแม้ผ่านไปหลายปี คุณสามารถคาดหวังมูลค่าการขายต่อที่สูงขึ้นได้เสมอสำหรับกระเป๋าถือที่อยู่ในสภาพดีเยี่ยมและอุปกรณ์ครบถ้วน
ราคาของกระเป๋า Chanel เพิ่มสูงขึ้นถึง 21% ในปีนี้ ด้วยราคาของมันที่คาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณสามารถรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าประทับใจได้ภายในสิ้นปี 2023 Chanel Classic Flap ที่สภาพดีพร้อมอุปกรณ์ครบ สามารถทำกำไรได้มากถึง 132% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หากคุณคิดจะซื้อกระเป๋าชาแนลรุ่นโปรดในตอนนี้ เราขอแนะนำให้คุณรีบดำเนินการก่อนที่ราคาจะสูงขึ้นไปกว่านี้
4. Dior Saddle Bag
Dior Saddle ถูกออกแบบโดย John Galliano เมื่อปี ค.ศ. 1999 อีกหนึ่งกระเป๋า It Bag อันทรงพลังนี้ ถูกนำเสนอสู่ยุคสมัยระหว่างคอลเลกชั่น Spring/Summer ปี 2000 ดาราดังหลายต่อหลายคนในยุค 2000 ทุกคนถูกพบเห็นว่าถือกระเป๋า Dior Saddle เช่น Paris Hilton หรือ Beyoncé และหลังจากมันปรากฏตัวในซีรีย์ Sex and the City ในฐานะกระเป๋าคู่ใจของ Carrie Bradshaw มันก็ดังเป็นพลุแตกในทันที
กระเป๋าถือจากยุค 90 นี้ ถือได้ว่ายังรักษามูลค่าของมันไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับใครที่กำลังมองหาการลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมหรู กับราคาที่จับต้องได้ หากคุณทำการซื้อกระเป๋า Saddle รุ่นนี้ เมื่อปี 2000 คุณอาจคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนได้ 109% และจากข้อมูลของ Forbes กระเป๋าใบนี้ยังคงรักษามูลค่าเฉลี่ยไว้ได้ 89% ในปี 2022 เราขอแนะนำให้คุณนำเงินของคุณไปลงทุนไว้กับ Saddle ที่มาพร้อมกับหนังลูกวัวสีดำด้านรุ่นใหม่ หรือกระเป๋า Saddle รุ่นวินเทจที่ยังอยู่ในสภาพดี
การฟื้นตัวของแฟชั่น Y2K ในปัจจุบันส่งผลให้แฟชั่นวินเทจต่าง ๆ กลับมาเพิ่มมูลค่าอีกครั้ง ไม่แปลกใจเลยที่ราคาของกระเป๋า Dior Saddle รุ่นดั้งเดิมพุ่งทะยานในตลาดมือสองนับตั้งแต่เปิดตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 2018 ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าคุณควรดูแลปัดฝุ่นกระเป๋าวินเทจเหล่านั้น เพราะมันสามารถทำกำไรให้คุณ อย่างที่คุณนึกไม่ถึง !
สำหรับราคากระเป๋าวินเทจที่จำหน่ายในตลาดมือสอง จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 3,000 ปอนด์ (38,000-111,800 บาท) กระเป๋ารุ่นออริจินัลปี 2000 อาจมีมูลค่าถึง 5,000 ปอนด์/6,000 ปอนด์ (186,000-224,000 บาท) ในกระเป๋าที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมอุปกรณ์ครบ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่คุ้มค่าแก่การลงทุน
5. Louis Vuitton Monogram Speedy 30
เชื่อได้ว่า ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกระเป๋าทรงหมอนยอดนิยมตลอดกาล ขึ้นแท่นเป็น It Bag , Iconic Bag , Investment Bag มาทุกยุคทุกสมัย หรือแม้กระทั่งเป็นตัวเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกของใครหลาย ๆ คน Louis Vuitton Speedy ถูกนำเสนอครั้งแรกภายใต้ชื่อ Express เมื่อปี ค.ศ. 1930 เป็นการย่อส่วนกระเป๋ารุ่น Keepall ให้มีขนาดย่อมลงมา เพื่อความสะดวกและเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า
ขณะนั้นกระเป๋าถูกนำจำหน่ายในรูปแบบของผ้าใบเรียบ ไม่มีลวดลาย และมีเพียง 3 ขนาด คือ ขนาด 30, 35 และ 40 ในปีต่อมา จึงมีการนำเสนอ Speedy ภายใต้ ผืนผ้าใบ Monogram Canvas ในปัจจุบัน ขนาดที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ขนาด 30 เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันกุญแจสำคัญในการลงทุนกับกระเป๋าสักใบอยู่ที่ “อายุเฉลี่ยการใช้งาน” รวมถึงราคาที่เหมาะสม
จากการศึกษาการเติบโตของกระเป๋ารุ่น Speedy โดยเริ่มจากราคาของกระเป๋ารุ่น “Vintage” ในช่วงปี ค.ศ. 2004 กระเป๋า Louis Vuitton Speedy ขนาด 30 ในวัสดุผ้าใบ Monogram ราคาขายในขณะนั้นอยู่ที่ $550 (19,000 บาท) หลังจากนั้น ราคาขายก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
ซึ่งในปี 2004 ราคากระเป๋าคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 17,100 บาท ปี 2009 ราคาอยู่ที่ 22,400 บาท (เพิ่มขึ้น 31%) ปี 2015 ราคาอยู่ที่ 24,000 บาท (เพิ่มขึ้น 7.14%) ปี 2016 ราคาอยู่ที่ 25,300 บาท (เพิ่มขึ้น 5.4%) ปี 2017 ราคาอยู่ที่ 26,700 บาท (เพิ่มขึ้น 5.5%) ในปี 2018 ราคาอยู่ที่ 28,000 บาท (เพิ่มขึ้น 4.8%)
ตั้งแต่ปี 2004-2018 ราคาของ Speedy Bag เพิ่มสูงถึง 63% ในปี 2019 ราคาของกระเป๋าอยู่ที่ 34,600 บาท ในปี 2020 อยู่ที่ราคา 36,500 บาท ภายใน 1 ปี ราคาปรับขึ้น 5.49% ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าที่คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างยิ่ง โดยในปัจจุบันปี 2023 Louis Vuitton เพิ่งมีการปรับราคากระเป๋า โดยราคาของกระเป๋า Speedy ขนาด 30 อยู่ที่ $2,160 (55,607 บาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2021 ซึ่งราคาอยู่ที่ $1,160 (40,229 บาท) คิดเป็น 38.2%
มูลค่าการซื้อขายของกระเป๋า Speedy ในตลาดมือสอง ก็แสดงตัวเลขผลตอบแทนอันน่าทึ่งเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณได้ทำการซื้อกระเป๋า Speedy 30 วัสดุ Monogram Canvas ปี 2014 ในราคา 22,444 บาท จะสามารถขายในตลาดมือ 2 ปัจจุบัน ได้ในราคาประมาณ 19,000-24,000 บาท ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับราคาตั้งต้นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋าด้วย ด้วยรูปลักษณ์ของกระเป๋าที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิม จึงให้กลิ่นอายของความเป็นหลุยส์ วิตตองอย่างเต็มเปี่ยม แม้จะมีการตัดเย็บออกมาด้วยวัสดุที่แตกต่างกันออกไปก็ตาม ทำให้ราคาของกระเป๋ารุ่นนี้ ในตลาดซื้อขายมือ 2 ไม่เสื่อมค่าไปเลยแม้แต่น้อย
เมื่อคุณตัดสินใจจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นเจ้าของกระเป๋าใบสวยสักใบ นับว่าเป็นอีกเรื่องที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือเพื่อการลงทุน คุณคงต้องการทราบถึงผลดี และผลตอบแทนอันคุ้มค่าเมื่อคุณตัดสินใจเป็นเจ้าของมันแล้ว และคุณย่อมต้องการทราบว่าเป็น "การลงทุน" ที่ดีหรือไม่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด กระเป๋าลักชัวรี่แบรนด์เหล่านี้ สามารถเป็นสมบัติตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ถือได้ว่าเป็นได้ทั้งมรดก สินทรัพย์เพื่อการลงทุน และยังมีคุณค่าทางจิตใจอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนคือความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนตัดสินใจ
และทั้งหมดนี้คือ Top 5 สุดยอดกระเป๋า Luxury น่าลงทุน ปี 2023 จาก Sf Brandname หากคุณต้องการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนม ทาง SF Brandname มีบริการรับฝากขายสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท พร้อมให้ราคาสูง รวมถึงบริการสปา จำนำกระเป๋าแบบครบวงจร ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : sfbrandname
- Line : @sfbrandnamebkk
- Website : https://sfbrandname.com/
- Tel : 02-821-6444